ไขข้อสงสัย Facebook Ads และ Google Ads ต่างกันอย่างไร?
วันนี้ DIGITAL BASE จะมาแชร์ความรู้ให้ทุกท่านร้องอ๋อ และเปลี่ยนความคิดที่ว่า Online Marketing นั้น ยาก! ซับซ้อน! ให้กลายเป็นเรื่องง่ายกว่าที่คุณคิด
พร้อมเปิดโลกแล้วเราไปเริ่มทำความรู้จักเบื้องต้นเกี่ยวกับ Facebook Ads และ Google Ads กันเลยค่ะ
Facebook Ads กับ Google Ads เนี่ยถือเป็นเครื่องมือชนิดหนึ่งที่เราใช้ในการโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้ารู้จักแบรนด์สินค้าหรือการบริการของเรามากขึ้น จนไปถึงการหาลูกค้าใหม่ๆ ให้มาซื้อสินค้าหรือบริการของเราค่ะ เรียกได้ว่าเป็น “เครื่องมือเรียกลูกค้าเข้าร้าน” ได้เลย ตอนนี้เรารู้ข้อมูลเบื้องต้นแล้วต่อไปเราไปดูกันเลยค่ะว่าเครื่องมือทั้งสองตัวนี้ต่างกันอย่างไร
ทำความรู้จัก Facebook Ads
Facebook Ads ก็คือ การทำโฆษณาผ่านแพลตฟอร์มของ Facebook โดยในปัจจุบันมีเครื่องมือที่ช่วยจัดการโฆษณาของเราด้วยกัน ดังนี้
- แอปพลิเคชั่น Facebook
- แอปพลิเคชั่น Facebook Adverts Manager
- แอปพลิเคชั่น Facebook Pages Manager
ซึ่งการทำโฆษณาใน Facebook มีจุดประสงค์ คือ
- กระตุ้นลูกค้าให้เกิดการรับรู้การมีตัวตนของแบรนด์แล้วเกิดการติดตามเพจ
- กระตุ้นลูกค้าให้เกิดการตัดสินใจในการซื้อโดยการทำให้ลูกค้าเกิดความชอบความอยาก
- กระตุ้นลูกค้าให้เกิดการสนทนาสอบถามข้อมูล
- สุดท้ายจบด้วยการปิดการขายซึ่งช่องทางปิดการขายก็ขึ้นอยู่กับว่าเราลงข้อมูลให้ลูกค้าติดต่อเราทางไหนได้บ้างเพื่อซื้อสินค้า ซึ่งการปิดการการขายจะมี 2 ระบบ คือ ลูกค้าทักหาเราปิดการขายในช่องแชท (Facebook Messenger) หรือ ลูกค้าเข้าระบบร้านค้าแล้วกดสั่งซื้อเอง ซึ่งส่วนมากการปิดการขายในช่องแชทจะเป็นที่นิยมมากกว่าเพราะเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายกว่า
โดยภาพรวมแล้วการทำโฆษณาใน Facebook จะเน้นการหาลูกค้าโดยนำเสนอสินค้า หรือ การบริการของเราเป็นรูปภาพ วิดิโอ และเนื้อหาที่ดึงดูดความสนใจของลูกค้าในกลุ่มเป้าหมายที่เราตั้งไว้แล้วยิงโฆษณาไปหาลูกค้า

Facebook Advertising
ข้อดีและข้อเสีย
ปิดการขายง่ายกว่าใน Google แต่ความแม่นยำในการส่งข้อมูลไปหากลุ่มเป้าหมายอาจไม่แม่นยำเท่า Google Advertising
ทำความรู้จัก Google Ads
Google Ads ก็คือ การทำโฆษณาผ่านเครือข่าย Google โดยการใช้ประโยชน์จาก search engine ว่ากันง่ายๆ คือ “เครื่องมือใช้ข้อความหาลูกค้า” ถ้าคิดภาพยังไม่ออกว่าใช้ข้อความหาลูกค้าคืออะไร ให้ลองคิดถึงเวลาที่ตัวท่านเองเปิด Google หาข้อมูลหาสิ่งที่ท่านอยากจะได้ดูค่ะ
ยกตัวอย่าง
นายสมสักดิ์เป็นโรคเก๊าท์ ปวดเข่ามากไม่รู้ต้องทำยังไงให้หาย เขาก็เลยไปค้นหาข้อมูลใน Google ดู เขาพิมพิ์ว่า “ทำยังไงให้หายปวดเข่าจากโรคเก๊าท์”
ตัว Google ก็จะเริ่มประมวลผลข้อความที่เขาพิมพ์ว่าไปตรงกับคำไหนในเว็บไซต์ไหนบ้างเสร็จแล้วก็จะแสดงข้อมูลเว็บไซต์ที่ติด SEO (อยากรู้เรื่องของ SEO เพิ่มคลิ๊กลิงค์นี้เลย)และเว็บไซต์ที่มีการทำโฆษณาผ่าน Google ขึ้นมาไว้ลำดับต้นๆ ให้นายสมศักดื์เห็น
คราวนี้เริ่มเข้าใจขึ้นแล้วใช่ไหมคะว่าเราจะใช้ข้อความหาลูกค้ายังไง
เราก็ใช้ข้อความหาลูกค้าโดยการเฟ้นหา Keyword ที่น่าจะเข้าไปถึงกลุ่มเป้าหมายของสินค้าและการบริการของเราแล้วทำการยิงโฆษณาผ่าน Google Ads นั่นเองค่ะ
ซึ่งการทำโฆษณาใน Google มีจุดประสงค์ คือ
- ทำให้ลูกค้าเข้าถึงข้อมูลสินค้าและการบริการของเรามากขึ้น
- เราเป็นฝ่ายหาข้อมูลแล้วตั้งร้านรอลูกค้าที่ต้องการสินค้าเดินเข้ามาคลิ๊กหาเอง
โดยภาพรวมแล้วการทำโฆษณาใน Google จะเน้นการหาลูกค้าโดยการหาคำพูดให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายของสินค้า หรือ การบริการของเรา ทั้งยังมีความแม่นยำในการส่งข้อมูลถึงลูกค้าเพราะลูกค้าเป็นคนหาเราเอง แต่การปิดการขายอาจจะไม่สะดวกรวดเร็วเหมือนกับ Facebook

Google Advertising
ข้อดีและข้อเสีย
ความแม่นยำในการส่งข้อมูลสูง แต่การปิดการขายอาจลำบากกว่ามากกว่า Facebook Advertising
สรุปแล้ว การโฆษณาผ่าน Facebook จะเป็นการยิงภาพและวิดิโอที่มีคอนเทนต์ดึงดูดส่งไปให้ลูกค้าในกลุ่มเป้าหมายของเราที่ตั้งไว้ แต่การโฆษณาผ่าน Google จะเป็นการหา กลุ่มคำ ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายแล้วยิงโฆษณาออกไปให้ลูกค้าเข้ามาหาเราได้ง่ายมากขึ้น